พระสังฆาธิการและคณะสงฆ์จากภาค ๙ ทำสามีจิกรรม

   วันที่ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๖๐เวลา๑๓.๐๐น. พระสังฆาธิการและคณะสงฆ์จากภาค ๙ คือจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ได้เดินทางมาเพื่อทำสามีจิกรรม เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(สนิท ชวนปญฺญมหาเถร) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามพระเดชพระคุณพระเทพเมธี (สมเกียตริ โกวิโท ป.ธ.๙ ) เจ้าคณะภาค๙ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานครพระเดชพระคุณพระราชวิสุทธิโมลี (มนู สุมโน) รองเจ้าคณะภาค๙ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโมลี รองเจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม กรุงเทพมหานคร สามีจิกรรมธรรมเนียมสงฆ์สร้างความสามัคคี การทำสามีจิกรรมเป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกันเพื่อความสามัคคีกัน อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การทำความชอบนี้เรียกว่าสามีจิกรรมหมายถึงการขอขมาโทษกัน ให้อภัยกัน ทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุกรูปไม่พึงละโอกาสเสีย จึงได้ชื่อว่าเป็นภิกษุสามเณรที่ดี ปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย โอกาสควรทำสามีจิกรรมนั้น มีดังนี้
   ๑.ในวันเข้าพรรษา ทั้งภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันควรทำสามีจิกรรมต่อกันเรียงตัวตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุดถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด ไม่ควรเว้น เพื่อความสามัคคี
   ๒.ในระยะเข้าพรรษา เริ่มแต่วันเข้าพรรษาและหลังวันเข้าพรรษา ระยะเวลาประมาณ ๗ วัน ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัด
   ๓.ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัดและต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป


ทั้ง ๓ กรณีนี้ เป็นการทำสามีจิกรรม แบบขอขมาโทษ นอกจากนี้ยังมีสามีจิกรรมแบบถวายสักการะเป็นการแสดงมุทิตาจิตอีกแบบหนึ่ง นิยมทำต่อท่านที่ตนเคารพนับถือในโอกาสที่ท่านผู้นั้นได้รับอิสริยศักดิ์หรือได้รับยกย่องในฐานันดรศักดิ์ เป็นการแสดงจิตใจที่พลอยยินดีให้ปรากฏ
ในงานนี้ พระโสภณพัฒนบัณฑิต.รศ.ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น รองอธิการบดี วิทยาเขตขอนแก่น เพื่อทำสามีจิกรรม ถวายสักการะพระมหาเถระ ณ กรุงเทพมหานคร.

ภาพ,ข่าว โดย งานประชาสัมพันธ์องค์กร มจร.วิทยาเขตขอนแก่น( คณะสงฆ์.)
มีผู้เข้าชมแล้วจำนวน : 330 ครั้ง